สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ : พระนครศรีอยุธยา : Hamanan.com

พระนครศรีอยุธยา

"ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา"

พ ร ะ น ค ร ศ รี อ ยุ ธ ย า
เ ท ศ ก า ล / ป ร ะ เ พ ณี
โ ร ง แ ร ม แ ล ะ ที่ พั ก
ร้ า น อ า ห า ร
ร้ า น ค้ า
บ ริ ษั ท ทั ว ร์ / ร ถ เ ช่ า
ส มุ ด เ ยี่ ย ม ช ม
ส ม า ชิ ก ท่ อ ง เ ที่ ย ว
ภ า พ ถ่ า ย
ก า ร เ ดิ น ท า ง
แ ผ น ที่
แ จ้ ง แ ก้ ไ ข ข้ อ มู ล

แ ล ก ลิ ง ค์ กั บ เ ร า

: : : ส ถ า น ที่ ท่ อ ง เ ที่ ย ว อื่ น ๆ : : :
: : : จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : : :
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ป้อมปราการรอบกรุง ป้อมตามกำแพงเมืองและป้อมรอบนอก ซึ่งปรากฏชื่อในพงศาวดาร มีป้อมมหาไชย ป้อมเพชร ป้อมหอราชคฤห์ ป้อมชิดกบ ป้อมจำปาพล ป้อมใหญ่ๆ จะตั้งอยู่ตรงทางแยกระหว่างแม่น้ำ เช่น ป้อมเพชร และป้อมมหาไชย เป็นต้น

ป้อมเพชร อยู่ตรงที่บรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก เป็นป้อมรูปรี ก่อด้วยอิฐสลับด้วยศิลาแลง ยื่นออกจากแนวกำแพงพระนคร มีช่องคูหาก่อเป็นรูปโค้ง ซึ่งมีซากเหลืออยู่ทุกวันนี้

พระราชวังและตำหนักต่างๆ พระราชวังในพระนครศรีอยุธยา 3 แห่งคือ พระราชวังหลวง วังจันเกษมหรือวังหน้า และวังหลัง นอกจากนี้ยังมีวังและตำหนักซึ่งเป็นที่สำหรับเสด็จประพาสอยู่นอกพระนครศรีอยุธยาอีกหลายแห่ง คือ วังที่เกาะบางปะอิน อำเภอบางปะอิน ตำหนักนครหลวง อำเภอนครหลวง

วังจันทรเกษมหรือวังหน้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราช และพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ครั้งเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 ถูกไฟไหม้หมดไม่มีซากโบราณสถานหลงเหลือเลย สถานที่ต่างๆ ในพระราชวังจันทรเกษมสร้างใหม่ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยโปรดให้สร้างตามแผนผังเดิมเพื่อใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น "อยุธยาพิพิธภัณฑ์" และปัจจุบันคือ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม" ภายในพระราชวังมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจคือ พลับพลาจตุรมุข พระที่นั่งพิมานรัตยา พระที่นั่งพิสัยศัลยลักษณ์ กำแพงและประตูวัง วังหลัง

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดที่สำคัญและน่าชมที่สุด อยู่ในพระราชวังหลวงเช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพฯ ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่แล้วโปรดยกให้เป็นเขตพุทธาวาส จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังไม่มีพระสงฆ์

วิหารพระมงคลบพิตร พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์องค์ใหญ่องค์หนึ่งของประเทศไทย พระมงคลบพิตรนี้แต่เดิมอยู่ทางทิศตะวันออก นอกพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมได้โปรดให้ชะลอมาไว้ทางด้านทิศตะวันตกที่ซึ่งประดิษฐานอยู่ในปัจจุบัน และก่อมณฑปสวมไว้ ครั้นถึงแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือ ยอดมณฑปเกิดไฟไหม้เพราะอสุนีบาต ทำให้พระศอของพระมงคลบพิตรหักตกลง จึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่แปลงเป็นมหาวิหารแทน เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2 วิหารมลคลบพิตรถูกไฟไหม้ทรุดโทรม พระวิหารและองค์พระพุทธรูปได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ ฝีมือไม่งดงามอ่อนช้อยเหมือนของเก่า บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรทางด้านทิศตะวันออกเดิมเป็นสนามหลวง ใช้เป็นที่สำหรับสร้างพระเมรุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ และเจ้านายเช่นเดียวกับท้องสนามหลวงของกรุงเทพฯ

วัดพระราม อยู่นอกเขตพระราชวังไปทางด้านทิศตะวันออก สมเด็จพระราเมศวรทรงสร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้าอู่ทองพระราชบิดา วัดนี้มีบึงใหญ่อยู่หน้าวัด เรียกว่า หนองโสน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บึงพระราม ปัจจุบัน คือ สวนสาธารณะพระราม

วัดพระมหาธาตุ อยู่ตรงหน้าพระราชวัง ด้านทิศตะวันออกเชิงสะพานป่าถ่าน สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1

วัดราชบูรณะ อยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ( เจ้าสามพระยา ) โปรดให้ก่อเจดีย์ขึ้น 2 องค์ สวมทับตรงที่ซึ่งเจ้าอ้ายและเจ้ายี่ชนช้างกันถึงสิ้นพระชนม์ ให้สถาปนาพระมหาธาตุและพระวิหารเป็นพระอาราม และพระราชทานนามว่า วัดราชบูรณะ

วัดเสนาสนาราม อยู่หลังวังจันทรเกษม เป็นวัดโบราณเดิมชื่อ วัดเสือ มีพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์คือ พระสัมพุทธมุนี เป็นพระประธานในพระอุโบสถ และ พระอินทรแปลง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร เป็นพระพุทธรูปมาจากเวียงจันทน์

วัดโลกยสุธา อยู่ถัดเจดีย์พระศรีสุริโยทัยเข้าไปทางด้านหลังประมาณ กิโลเมตรเศษ บริเวณวัดอยู่ติดกับวัดวรเชษฐาราม

วัดสวนหลวงสบสวรรค์ อยู่ในเกาะเมือง ด้านทิศตะวันตก ( บริเวณกรมทหารเก่า ) สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงสร้างในสวนหลวงติดกับวัดสบสวรรค์เดิม เมื่อสมเด็จพระศรีสุริโยทัยสิ้นพระชนม์ โปรดให้เชิญพระศพมาไว้ที่ตำหนักสวนหลวงและพระราชทานเพลิงศพที่นั้นแล้วทรงสร้างพระอารามขึ้นตรงบริเวณพระเมรุ ปัจจุบันยังมีพระสถูปเจดีย์ใหญ่เป็นสำคัญ เรียกว่า เจดีย์พระศรีสุริโยทัย

วัดพุทไธสวรรย์ สร้างขึ้นในบริเวณที่สมเด็จพระเจ้าอู่ทองอพยพมาสร้างเมืองใหม่ เดิมบริเวณนี้เรียกว่า เวียงเล็ก หรือ เวียงเหล็ก

วัดพระเจ้าพนัญเชิง อยู่ริมน้ำทางด้านทิศใต้ของพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีมาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยา เดิมทีใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐาน พระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหารนั้นชื่อ พระเจ้าพนัญเชิง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1867 ในปี พ.ศ. 2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณะใหม่ทั้งองค์ และถวายพระนามว่า พระพุทธไตรรัตนนายก นับเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีอายุมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตักกว้าง 20.17 เมตร และสูงจากชายพระชงถึงพระรัศมี 19 เมตร

วัดเจ้าพญาไทหรือวัดใหญ่ไชยมงคล หรือวัดป่าแก้ว อยู่นอกพระนครศรีอยุธยาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีพระเจดีย์ใหม่มองเห็นแต่ไกล สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึกที่วัดนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี และทรงมุ่งให้เจดีย์คู่กับเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดภูเขาทอง เรียกเจดีย์นี้ว่า พระเจดีย์ไชยมงคล

พระตำหนักพระนครหลวง เป็นที่ประทับในระหว่างเสด็จไปพระพุทธบาทและประทับแรมในระหว่างเสด็จลพบุรี สันนิษฐานว่าสร้างในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แต่มาสร้างเป็นที่ประทับก่ออิฐถือปูนในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
กลับด้านบน

: : : ส ถ า น ที่ ท่ อ ง เ ที่ ย ว น่ า ส น ใ จ : : :
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
แนะนำที่เที่ยวให้เรา

: : : ข่ า ว ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ : : :
มีข่าวอะไรดีๆ ในจังหวัดนี้บอกเราได้เลย เราจะนำมาลงให้นะครับ ขอบคุณที่ส่งข่าว

ฝากข่าว

: : : โ ฆ ษ ณ า สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร : : :
โฆษณาตรงนี้จะปรากฎทั้ง 76 จังหวัดภายในเว็บแห่งนี้

ติดต่อโฆษณาคลิกที่นี่

: : : อ ะ ไ ร ดี ๆ จ า ก บ อ ร์ ด ท่ อ ง เ ที่ ย ว : : :
เก็บอะไรดีๆ ในจังหวัดนี้จากบอร์ดหามานท่องเที่ยวมาฝากครับ...

ตั้งกระทู้ใหม่