- - ++ - - บันทึกการเดินทางบนดอย - - ++ - - |
20 มกราคม 2544 22.00 ขึ้นรถที่หมอชิต 2 เริ่มออกเดินทาง 21 มกราคม 2544 07.30 ถึงท่ารถเชียงใหม่ 07.45 พี่โถ ซึ่งเป็นคนนำทางมารับที่ท่ารถเชียงใหม่ 09.00 แวะซื้ออาหาร ข้าวสาร น้ำดื่ม สำหรับบนดอย 09.30 ทานอาหารเช้า ---> ข้าวขาหมูเชียงดาว (มาที่นี่แล้ว ถ้าไม่ได้ทานข้าวข้าหมูเชียงดาว ก็ถือว่ามาไม่ถึงที่นี่นะครับ เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่น่ะครับ) 10.00 ถึงบ้าน พี่โถ (เอาสัมภาระที่ไม่จำเป็นเก็บไว้ที่บ้านพี่โถ) เพราะทางลงจากดอยเชียงดาวที่เขาเรียกกันว่า บ้านถ้ำ จะอยู่ห่างจากบ้าน พี่โถ ประมาณ 2 กิโลเมตร 10.30 นั่งรถ ออกเดินทางจากบ้านพี่โถไปเด่นหญ้าขัด ระหว่างทาง ตอนแรกก็จะเป็นถนนคอนกรีตก่อนนะครับ ต่อจากนั้นก็เป็นทางขึ้นดอย ก็จะเป็นทางลูกรังน่ะครับ ก็มองเห็นดินเป็นบางช่วง ถ้าฝนตกจะขึ้นไม่ได้นะครับ เพราะทางค่อนข้างชัน จะลื่นมาก 2 ข้างทางก็จะเป็นป่าตลอดครับผม ระหว่างทางก็จะมีหมู่บ้าน แต่มีไม่กี่บ้านหรอกครับ ประมาณ 5 หลังคาเรือนเห็นจะได้ เมื่อรถขึ้นไปสูงขึ้น ก็จะเห็นป่าสน 12.10 ถึงจุดตรวจบ้านสันป่าเกี๊ยะ ตรงนี้ต้องลงนามกันหน่อยว่าเราได้มาเยือนที่นี่แล้วครับ 12.40 ถึงเด่นหญ้าขัด ( เราจะเริ่มเดินกัน ณ จุดนี้แหละ ) ซึ่งจุดนี้เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ครับผม ผมกับเพื่อนก็ถ่ายรูปที่นี่กันด้วย ถ่ายรูปดอกซากูระป่าด้วยนะ ดอกสีชมพูบานสะพรั่งเต็มต้นเลยครับ สวยงามมากเลยครับ ถ่ายรูปแล้วเราก็ทานอาหารกลางวันกัน 13.00 เริ่มออกเดินทาง ช่วงแรกนี้ทางจะกว้างไม่ค่อยรกครับ ผมเดินไปก็สอบถามข้อมูลไป เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในนี้แหละครับ ระหว่างเดินไปก็หยุดแวะ ถ่ายรูปวิวข้างทางไปเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเดินไปเรื่อยๆ ทางจะเริ่มแคบลง ( เดินได้คนเดียว ) และเริ่มชันขึ้น สองข้างทางจะเป็นหญ้ารกสูงท่วมหัว เรียกว่า หญ้ายุง และเมื่อเดินไปสักพัก 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นสาบเสือ ( สาบเสือนี้เอาไว้ทำยากันยุงได้นะ ) 14.45 มาถึงดงท้อ เมื่อเรามาถึงดงท้อ เราก็นั่งพักเหนื่อยสักครู่ จากนั้นก็เอาข้าวเหนียวกับลาบมานั่งกินกัน เมื่อทานเสร็จเราก็ช่วยกันกางเต็นท์ เพราะพวกเราจะพักแรมที่นี่เป็นคืนแรก กางเต็นท์เสร็จก็ถ่ายรูปกับเต็นท์สักหน่อย เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และถ่ายรูปดอยต่างๆ เก็บไว้ดูด้วยครับ น่าเสียดาย ณ จุดนี้จะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ตกนะครับ เพราะมียอดเขาบัง มีเวลาเหลือผมกับเพื่อนก็นั่งคุยกับพี่โถ ก็ได้อะไรหลายอย่างเลยล่ะ เช่น ภาษาท้องถิ่น ซาว หมายถึง 20 บาท ( คำพูดนี้เราไปเจอในตลาด ผมกับเพื่อนงงไปเลยครับ เพราะตอนแรกไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร ) ข้าวงาย หมายถึง อาหารเช้า ข้าวตอน หมายถึง อาหารกลางวัน ข้าวแลง หมายถึง อาหารเย็น ขี้จุ๊ หมายถึง โกหก หลอกลวง ปาง หมายถึง สถานที่ชั่วคราว หม้อขาง หมายถึง กะทะ สุด หมายถึง มุ้ง 17.30 พี่โถและลูกหาบ 2 คนก็ช่วยกันก่อกองไฟเพื่อหุงข้าว และทำกับข้าวสำหรับอาหารเย็น 18.00 พวกเราก็เริ่มทานอาหารเย็น ตะวันเริ่มจะหายไปจากขอบฟ้าแล้วล่ะครับในตอนนี้ อากาศก็เริ่มเย็นลง ความมืดเริ่มมาเยือน เมื่อผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ เราก็จะเริ่มมองเห็นดวงดาวปรากฎขึ้นทีละดวง ..2 ดวงและมากขึ้นทุกขณะ ประมาณ 20.00 น. ดาวก็เริ่มเต็มท้องฟ้า สวยงามมากเลยครับผม 21.00 พวกเราก็เข้าเต็นท์นอนครับผม 22 มกราคม 2544 08.10 ออกเดินทางจากดงท้อ ไปสู่ดอยเหนือ 08.40 ผ่านดอยเหนือ เส้นทางเดินระหว่างทางเป็นทางแคบๆ ( เดินได้คนเดียว ) 2 ข้างทางเป็นหญ้าสูงท่วมหัว ทางเดินค่อนข้างลื่น ต้องระวังเป็นอย่างมากเพราะถ้าลื่นอาจตกเขาลงไปด้านล่างได้ เนื่องจากมีน้ำค้างในตอนเช้านั่นเอง กางเกงจะเปียกเกือบหมด 08.50 อยู่บริเวณดอยเหนือกับปิระมิด 09.10 มาถึงดอยปิระมิด ณ จุดนี้จะมองเห็นดอยกิ่วปากอ่าง (เราเดินเลียบดอย 3 พี่น้องไปเรื่อยๆ) 09.30 ตรงดอยปิระมิด มีดงน้อย (ตรงนี้ห้ามพักแรมนะครับ) จะมีดอกเทียนนกแก้วขึ้น ณ บริเวณนี้ แต่เราไม่ได้เห็นหรอกครับ เพราะมันจะมีช่วงเดือนตุลาคมน่ะครับ 10.00 มาถึงทางแยกบริเวณกิ่วป่าคา มีก้อนหินเขียนว่า เนินพิศวง 1. แยกซ้ายจะไปดอยปิระมิด 2. แยกขวาไปกิ่วปากอ่าง (ทางนี้แหละจะเป็นทางไป ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของ ดอยเชียงดาว) 11.00 ถึงที่พักแรมบริเวณอ่างสลุง 1 แต่คืนนี้เราไม่ได้พักกันที่นี่หรอกนะครับ ตรงนี้เราจะมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวรำไรๆ 11.15 เดินมาถึงอ่างสลุง 2 ซึ่งที่นี่มีทางแยก 1. แยกซ้ายจะขึ้นดอยเชียงดาว และไปดูไร่ฝิ่น ( ตอนที่เราไปกันนั้นดอกฝิ่นยังไม่บานเลยไม่ได้ไปดูครับ ) 2. แยกขวาไปดอยกิ่วลม เราพักทานอาหารกลางวันและพักเหนื่อยกันที่อ่างสลุง 2 ครับผม 11.45 เราก็เดินจากอ่างสลุง 2 ขึ้นไปบนดอยเชียงดาว ( เราไม่ได้นำสัมภาระติดตัวไปหรอกครับ เราเอาเฉพาะกล้องถ่ายรูปกับน้ำดื่มขึ้นไปแค่นั้นเอง สัมภาระที่เหลือเราไว้ที่อ่างสลุง 2 ) ระยะทางจากอ่างสลุง 2 ถึงยอดดอยเชียงดาวก็ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ทางค่อนข้างชัน เมื่อมองไปทางด้านขวาระหว่างขึ้นดอยเชียงดาว เราจะเห็นดอยกิ่วลม ยิ่งเดินทางก็ยิ่งชันขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างทางเจอต้นกุหลาบเถาด้วยครับ แต่ไม่มีดอกให้เห็นนะครับ เสียดายจัง เมื่อมองลงมาเบื้องล่าง ทิวทัศน์จะเริ่มสวยขึ้นเรื่อยๆ จะมองเห็นดอกพวงหินเหลืองเกาะอยู่บนดอยกิ่วลมด้วย 12.05 ขึ้นมาเรื่อยๆ ก็มาพบกับ กุหลาบพันปี ( เราเห็นแต่ดอกตูมของมัน ซึ่งมันจะบานประมาณ 14 กุมภาพันธ์ ) เมื่อเราขึ้นมาถึงบนยอดดอยเชียงดาว ลมจะแรงมากเลยครับ เมื่อเรามองไปรอบๆ จะเห็นยอดเขาเกือบทุกลูก ขึ้นมาแล้วพลาดไม่ได้เลย ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย เราอยู่บนยอดดอยเชียงดาวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง 13.30 เราก็ลงมาจากยอดดอยเชียงดาว 13.50 ก็มาถึงอ่างสลุง 2 14.15 ออกเดินทางจากอ่างสลุง 2 เพื่อไปยังดอยกิ่วลม ระหว่างทางไปดอยกิ่วลมเราก็มาพบกับดอกพิมพ์ใจ (ถ่ายรูปเก็บไว้ดูด้วยล่ะ) 15.00 เราก็มาถึงดอยกิ่วลม ซึ่งเราจะพักแรมกันคืนนี้ เราจะดูพระอาทิตย์ตกและขึ้นได้จากที่นี่ครับผม เมื่อมาถึงแล้วเราก็นั่งพักเหนื่อยสักครู่ จากนั้นก็เริ่มถ่ายรูปอีกตามระเบียบ ณ ดอยกิ่วลมนี้จะมีดอกกุหลาบพันปีเป็นจำนวนมาก แต่เราเห็นแต่ดอกตูมของมัน น่าเสียดายอีกแล้ว ( ดอกจะบานประมาณ 14 กุมภาพันธ์ ) ที่นี่มีกล้วยไม้ด้วยนะครับ 17.30 เราก็มานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินกัน ไม่นานพระอาทิตย์ก็เริ่มจะลับขอบฟ้า สวยมากเลยครับ เรื่องถ่ายรูปตรงนี้ไม่พลาดอยู่แล้วล่ะครับ ลืมบอกไปที่นี่ลมแรงมากเลยครับ แรงกว่าที่ดอยเชียงดาวเสียอีก ถ้ามีกังหันลมคงจะเอามาปั่นไฟใช้ได้เลยล่ะครับ หลังจากชมพระอาทิตย์ตกเรียบร้อยแล้ว เราก็ช่วยกันกางเต้นท์ จากนั้นก็ทานอาหารเย็นกัน เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จเราก็ก่อกองไฟบริเวณเต้นท์ แล้วก็นั่งคุยกันเรื่อยๆ เปื่อยๆ ดาวคืนนี้สวยสู้คืนแรกไม่ได้ครับผม สาเหตุอาจเป็นเพราะว่าข้างล่างเป็นหมู่บ้านเปิดไฟสว่าง ทำให้แสงของดาวไม่สว่างเท่าที่ควร 21.00 เราก็เข้าเต้นท์นอนพักผ่อน 23 มกราคม 2544 06.00 ตื่นขึ้นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ตอนแรกเราจะมองเห็นด้านล่างปกคลุมไปด้วยหมอก หรือที่เขาเรียกกันว่า ทะเลหมอก นั่นเอง 07.00 พระอาทิตย์ก็ขึ้นมาให้เราเห็น เราได้ถ่ายรูปเก็บไว้ 07.45 ทานอาหารเช้า 08.10 ออกจากดอยกิ่วลม เดินทางไปตามเส้นทางบ้านถ้ำ เส้นทางเดินค่อนข้างลาดชัน แต่สำหรับคนเคยเดินป่า ขึ้นเขาแล้ว ผมคิดว่ามันธรรมดานะ ระหว่างเดินทางเรามองลงไปด้านล่าง จะเห็นดอยนม การเดินทางประมาณ 7 กิโลเมตรเห็นจะได้ จะถึงหมู่บ้าน 09.00 พ้นดอยกิ่วลม เข้าสู่ดอยนม ( มีทางราบเป็นบางช่วง แต่น้อยมาก ) 09.25 ผ่านดอยนม เข้าสู่เขตแอ่งป่าหวาย ตรงนี้เขาเรียกกันว่า ผาสามเส้า จะมีทางแยกลงบ้านถ้ำ 2 เส้นทาง คือ 1. ถ้าแยกไปทางซ้ายจะเรียกว่า เส้นทางแอ่งเหนือ ( ทางจะชันน้อยกว่า แต่ระยะทางจะยาวกว่า ) 2. ถ้าแยกไปทางขวา จะเรียกว่า เส้นทางป่าหวาย ( ทางจะชันมากกว่า แต่ระยะทางจะสั้นกว่า ) เราเลือกไปเส้นทางป่าหวาย เส้นทางจากป่าหวายลงมายังป่าไผ่ เส้นทางจะลาดชันมาก slide ลงมาได้เลย ( ถ้าฝนตกคงไม่ต้องพูดถึง ) ทางคงลำบากกว่านี้มากนัก ฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาที่นี่ และใช้เส้นทางนี้ในการลง ควรจะเตรียมตัวด้านร่างกายมาเป็นอย่างดี รวมถึงรองเท้า ที่จะสวมใส่ด้วย ควรเลือกรองเท้าที่มันเกาะพื้นสักหน่อย เพราะถ้าคุณก้าวพลาดก้าวเดียว จะทำให้คุณลื่นไถลลงมาไกลมากทีเดียวเลยละ ซึ่งนั่นก็หมายถึง อาจทำให้คุณเกิดรอยแผลจากหินหรือพกช้ำจากการลื่นไถลลงมานั่นเอง หรืออาจทำให้คุณข้อเท้าพลิกก็เป็นได้ 10.30 พักเหนื่อยตรง ทางสามเส้า 12.30 ก็มาถึงจุดหมายปลายทาง นั่นก็คือ บ้านถ้ำ นั่นเอง |