: : : อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ เ อ ร า วั ณ : : :
|
- -> ภาพจากนักเดินทางโดย กล้องดิจิตอล Cyber - shot U รุ่น DSC-U10 ของ Sony <- -
|
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
มีเนื้อที่ประมาณ 550 ตารางกิโลเมตร หรือ 343,750 ไร่
|
ภาพโดย นักเดินทาง
|
ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน : -
|
|
ประวัติความเป็นมา :-
สมัย ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีได้มีมติการประชุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 ให้กระทรวงเกษตร ( กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน )
ดำเนินการจัดตั้งป่าเทือกเขาสลอบ ท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ
กรมป่าไม้จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเบื้องต้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2504-2515 โดยใช้บริเวณน้ำตกเอราวัณเป็นศูนย์กลางสำรวจ
พบว่าบริเวณป่าเทือกเขาสลอบ จังหวัดกาญจนบุรี มีธรรมชาติที่สวยงามเป็นพิเศษและมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตามรายงานผลการสำรวจอุทยานแห่งชาติเขาสลอบ
ลงวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ของ นายวิจารณ์ สาระนาค นักวิชาการป่าไม้โท แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตหวงห้ามที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน
ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอวังขนาย อำเภอบ้านทวน และอำเภอวังกะ จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 55 ลงวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2481
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ดังนั้นกรมป่าไม้จึงรายงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
แจ้งให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ตามหนังสือ ที่ กษ 0705/20251 และ 20252 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515
ขอเพิกถอนพื้นที่เขตหวงห้ามที่ดินบางส่วนที่เป็นป่าเทือกเขาสลอบเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่ง คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 6/2517
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 เห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติได้ และให้ใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ตามความนิยมและคุ้นเคยของประชาชนที่รู้จักน้ำตกเอราวัณเป็นอย่างดี กระทรวงกลาโหมแจ้งไม่ขัดข้อง ตามหนังสือกระทรวงกลาโหม ที่ กห 0318/23505
ลงวันที่ 21 ิสิงหาคม พ.ศ. 2517 และกระทรวงมหาดไทยไม่ขัดข้อง กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการขอเพิกถอนที่ดินหวงห้ามบริเวณดังกล่าว
โดยมีพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ดินหวงห้ามดังกล่าว ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2518
และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสลอบในท้องที่ตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์
และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบรี
ให้เป็น อุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2518
ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 92 ตอนที่ 114 ลงวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2518
เป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ
|
Top |
: : : ส ถ า น ที่ น่ า ส น ใ จ : : :
|
สถานที่น่าสนใจ :-
น้ำตกเอราวัณ
เป็นน้ำตกที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตร ติดต่อกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้นๆ ได้
7 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่ กล้วยไม้ป่าหลายชนิดบนคาคบไม้
สายธารน้ำที่ไหลตกลดหลั่นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เสียงสาดซ่า คลอเคล้าด้วยส่งเสียงเพรียกของนกป่า ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นับเป็นบรรยากาศที่เรียกเอาความมีคุณค่าของป่าเขาลำเนาไพรซึมซับเข้าสู่อารมณ์ของผู้ไฝ่ความสันโดษ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง
ชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตก เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีรูปคล้าย หัวช้างเอราวัณ
จนคนทั่วไปรู้จักและขนานนามว่า น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกผาลั่น
เป็นน้ำตกชั้นเดียว จะมีน้ำเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น
ถ้ำพระธาตุ
เป็นถ้ำมืดที่สวยงาม มี หินงอกหินย้อย เป็นรูปทรงต่างๆ ตามแต่ผู้พบเห็นจะจินตนาการ
สวยงามมาก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 790 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ
12 กิโลเมตร
ถ้ำวังบาดาล
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 54 กิโลเมตร
ตามทางหลวงหมายเลข 323 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 63
เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ( วังบาดาล ) แล้วเดินทางต่อไปอีก 1
กิโลเมตร จะถึงปากถ้ำ ลักษณะของถ้ำวังบาดาล เช่น ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ปากทางเข้าเป็นห้องเล็กๆ มีหลายห้อง ห้องชั้นล่างมีน้ำไหลผ่านและมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ด้วย
นอกจากนี้แต่ละห้องยังมีความงามของ หินงอกหินย้อย เช่น ห้องม่านพระอินทร์ จะมีลักษณะหินย้อยลงมาคล้ายกับม่าน
ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็มแท่งใหญ่ ซึ่งวิจิตรงดงามมาก
ถ้ำตาด้วง
เริ่มจากจังหวัดกาญจนบุรี ไปตามเส้นทางที่จะไปเขื่อนศรีนครินทร์จนถึงบ้านถ้ำพระธาตุ แล้วเลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอไทรโยค
ประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นทางติดกับแม่น้ำแควและสามารถเข้าไปยังด้านหลังเขื่อนท่าทุ่งนาได้
ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงเชิงเขาที่มีถ้ำตาด้วง จากนั้นต้องเดินขึ้นเขา ซึ่งค่อนข้างชันมากไปอีก
700-800 เมตร เนื่องจากถ้ำนี้มีหินถล่มลงมาปิดปากถ้ำ จึงไม่สามารถเข้าไปได้
แต่ลักษณะเด่นของถ้ำนี้มี ภาพเขียนอยู่ที่ผนังปากถ้ำเป็นรูปคนและต้นไม้ นอกจากนี้ยังพบเศษเครื่องใช้สมัยโบราณยุคหินใหม่
เช่น เศษถ้วย ไห เป็นต้น
ถ้ำหมี
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีอากาศถ่ายเทพอควร ( จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในอดีต ถ้ำนี้เคยเป็นที่อยู่ของหมี ทำให้เรียกกันต่อๆ มาว่า ถ้ำหมี )
ภายในถ้ำแบ่งเป็นห้องลดหลั่นเป็นชั้นๆ ได้ 8 ห้อง แต่ละห้องจะปรากฏรูปร่างและสีแปลกตา มี หินงอกหินย้อย ตามผนังถ้ำ
สวยงามพอสมควร ท่านสามารถเดินทางจากจังหวัดกาญจนบุรีไปยังบ้านถ้ำพระธาตุ แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอไทรโยค จนถึงทางเข้าบ้านทับศิลา
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 10 แล้วเดินทางไปตามทางลูกรังอีก 500 เมตร
จะถึงบ้านทับศิลาและเข้าซอยสามัคคีธรรม 10 จนถึงคลองตะเคียน จากจุดนี้ เดินเท้า ไปตามเส้นทางชักลากไม้เก่าต่อไปอีก 7 กิโลเมตร
ถ้ำเรือ
เริ่มจากซอยสามัคคีธรรม 10 ข้ามคลองตะเคียนไปประมาณ 100-200 เมตร
จะมีทางเลี้ยวขวา ซึ่งรถยนต์จะสามารถแล่นเข้าไปได้ประมาณ 200-300 เมตร จากนั้นต้อง
เดินเท้า เข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
ก็จะถึงถ้ำเรือ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 40-50 เมตร ไม่มีหินงอกหินย้อย
แต่จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ภาชนะที่ใช้รองน้ำสมัยโบราณวางอยู่ ภาชนะนั้นทำจากต้นไม้ทั้งต้น มาเจาะให้มีลักษณะคล้ายเรือ
ส่วนหัวตกแต่งเป็นรูปหัวคน มีตา, จมูก และหู 2 ข้าง ซึ่งช่วยค้ำไม่ให้พลิกเอียง ปัจจุบันสภาพของภาชนะแตกหักเหลือที่สมบูรณ์เพียงไม่กี่อัน
และมีมูลค้างคาวปกคลุมอยู่เป็นส่วนใหญ่ นับเป็นถ้ำที่มีค่าทางอารยธรรมของมนุษย์อีกแห่งหนึ่ง
|
|
เพิ่มเติมข้อมูลให้เรา
|
|
ภาพถ่าย :-
|
ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
|
สภาพภูมิประเทศ :-
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 165 - 996 เมตร
สลับกับพื้นที่ราบโดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ( Lime Stone ) ในแถบตะวันออกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนว
โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ในพื้นที่ซีกตะวันออกนี้ จะมีลำห้วยที่สำคัญ คือ ห้วยม่องไล่ และห้วยยอมตะลา
ซึ่งไหลมาบรรจบกันเป็น น้ำตกเอราวัณ ทางตอนเหนือของพื้นที่มีห้วยสะแดะและห้วยหนองมน
โดยห้วยสะแดะจะระบายน้ำลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ ส่วนห้วยหนองมนไหลไปรวมกับห้วยไทรโยค ก่อให้เกิด น้ำตกไทรโยค
ส่วนทางทิศใต้เป็นต้นกำเนิดของลำห้วยหลายสาย เช่น ลำห้วยเขาพัง เป็นต้น ก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงาม ซึ่งเรียกว่า น้ำตกไทรโยคน้อย
หรือ น้ำตกเขาพัง
|
|
สภาพภูมิอากาศ :-
มีสภาพภูมิอากาศแบ่งเป็น 3 ฤดูกาล คือ
ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม
ฤดูหนาว อยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มกราคม
ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยพัดพาให้เกิดฝน
แต่เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตเงาฝน ทำให้มีปริมาณฝนตกไม่มากนัก และอากาศค่อนข้างร้อน ลักษณะอากาศดังกล่าวจึงไม่เป็นปัญหาต่อการเที่ยวชม
ทำให้สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล
|
|
พรรณไม้ :-
ป่าเบญจพรรณ
สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณซึ่งมีประมาณ 78 % ของพื้นที่
พันธุ์ไม้ที่สำคัญ
ได้แก่ มะค่าโมง ตะเคียนทอง ประดู่ กว้าว มะกอก ตะแบก ฯลฯ
ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้งและป่าไผ่
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ เต็ง รัง เหียง พลวง พะยอม มะค่าแต้ ยางโอน ยมหิน ข่อยหนาม ก้นเกรา และไผ่ชนิดต่างๆ เป็นต้น
|
|
สัตว์ป่า :-
จากการสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในเขตพื้นที่อุทยานฯ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทคือ สัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
นกชนิดต่างๆ และสัตว์น้ำอื่นๆ รวมทั้งปลานานาชนิด
สัตว์ที่สำคัญและมักจะพบเห็น
ได้แก่ ช้างป่า เสือ เลียงผา อีเก้ง กวางป่า หมูป่า ชะนี ค่างแว่น กระต่ายป่า กระรอกบิน ไก่ฟ้าหลังเทา นกแว่น นกกระแตแต้แว้ด เหยี่ยว งูจงอาง งูสามแหลี่ยม งูหลาม
งูเห่า ปลาเวียน ปลาหมอช้างเหยียบ ปูน้ำตก ปูกาญจนบุรี เป็นต้น
|
|
สถานที่พักแรม :-
ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ท
299/1 หมู่ 4 ถ.กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ กม.46-47 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250
ก่อนถึงน้ำตกเอราวัณ 3 กิโลเมตร
บริการบ้านพักที่สวยมีสไตล์ แพพักที่แสนสบาย
ท่ามกลางธรรมชาติ ของผืนป่าและสายน้ำ ที่กลมกลืนไปกับห้องพักแสนสวย ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้...รอคอยการมาเยือนของท่าน
ให้วันพักผ่อนได้พักผ่อน......บรรยากาศดี..ดี กับการสร้างสรรค์ตนเองให้เสมือนหนึ่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาเยือนสักกี่ครั้ง....ก็ยังประทับใจมิรู้ลืม..
สนใจติดต่อ
034-574056
|
แนะนำสถานที่พักแรมที่นี่ครับ
|
|
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :-
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250
โทร. 034-574222 , 034-574234
หรือที่เว็บไซต์ http://www.dnp.go.th
|
|
ข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ :-
- ไม่ทำการยึดถือ ครอบครอง แผ้วถางป่า นำออกไปซึ่งแร่, ดิน, หิน, พรรณไม้ และสัตว์ป่า ตลอดจนของป่าทุกชนิด
- ไม่ล่าสัตว์และไม่นำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
- ไม่ทำเสียงดังจนเป็นที่รบกวนแก่นักท่องเที่ยวและสัตว์
- ต้องช่วยระมัดระวังมิให้เกิดไฟไหม้ป่า หากมีความจำเป็นต้องก่อไฟ เมื่อเสร็จแล้วกรุณาช่วยดับให้เรียบร้อย
- หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่
|
|
การเดินทาง :-
ทางรถยนต์ :-
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม ( ทางหลวงหมายเลข 4 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายปิ่นเกล้า - นครชัยศรี ( ทางหลวงหมายเลข 338 ) มุ่งหน้าสู่นครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
ทั้งสองเส้นทางด้านบนจะต้องผ่านแยกนครชัยศรี
จากแยกนครชัยศรี ขับตรงไป โดยจะผ่านแยกบ้านแพ้ว ผ่านสะพานไปตัวเมืองนครปฐม ผ่านแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี
จากนั้นจะถึงสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี ( สะพานนี้จะอยู่เลนซ้ายสุด )
จากแยกนครชัยศรี - สะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี.. ระยะทางประมาณ 24.4 กิโลเมตร
หมายเหตุ.. ตามแยกต่างๆ ไม่ต้องเลี้ยวนะครับ ให้ขับตรงไป ให้ไปขึ้นสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี
... ระยะทางจากแยกนครชัยศรี - แยกบ้านแพ้ว ประมาณ 8.5 กิโลเมตร
... ระยะทางจากแยกบ้านแพ้ว - สะพานไปตัวเมืองนครปฐม ประมาณ 0.5 กิโลเมตร
... ระยะทางจากสะพานไปตัวเมืองนครปฐม - แยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 6.4 กิโลเมตร
... ระยะทางจากแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี - สะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 9 กิโลเมตร
เมื่อถึงสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี ให้ท่านขับขึ้นสะพานไป หลังลงสะพานแล้ว จากนั้นขับตรงไปประมาณ 11.2 กิโลเมตร
ท่านจะพบสี่แยก ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปไปถ้ำค้างคาว เลี้ยวขวาไปกาญจนบุรี ) ให้ท่านเลี้ยวขวา แล้วขับตรงไป ประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงตัวอำเภอท่ามะกา
จากนั้นให้ขับตรงไปประมาณ 18.5 กิโลเมตร จะถึงแยกซ้ายไปตัวอำเภอท่าม่วง ไม่ต้องเลี้ยว ให้ขับตรงไปประมาณ
11.1 กิโลเมตร จะผ่านศาลากลางจังหวัด ซึ่งอยู่ด้านขวามือของท่าน จากนั้นขับตรงไป ประมาณ
2.4 กิโลเมตร จะผ่าน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 1 ( ททท ) ซึ่งอยู่ด้านขวามือของท่าน
เลยจาก ททท ไปประมาณ 200 เมตร ทางด้านขวามือของท่าน คือ สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นขับตรงไปประมาณ 3.9 กิโลเมตร
ท่านจะผ่านแยกซ้ายมือเข้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่ต้องเลี้ยวให้ขับตรงไป จากแยกซ้ายเข้าสะพานข้ามแม่น้ำแควขับตรงไปประมาณ
2.6 กิโลเมตร ท่านจะพบสี่แยก ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอำเภอไทรโยค ถ้าตรงไปจะไปน้ำตกเอราวัณ + เขื่อนศรีนครินทร์ ( ทางหลวงหมายเลข 3199 ) ให้ท่านขับตรงไป มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีสวัสดิ์
จากสี่แยกนี้ประมาณ 66 กิโลเมตร ท่านก็จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินเท้าอีกประมาณ
500 เมตร ก็จะถึงน้ำตกเอราวัณ
...( จากสี่แยก จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกเอราวัณตลอดเส้นทาง คิดว่าไม่น่าจะหลง )
...รถเก๋งไปได้นะครับ ...เป็นทางราดยางตลอดเส้นทาง..
...สอบถามเส้นทางได้จาก 08-1629-3354...โจ ( เจ้าของเว็บหามานานดอทคอม )
...หรือจะสอบถามเส้นทางจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้โดยตรง
ทางรถโดยสารประจำทาง :-
จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถนั่งรถปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี แล้วไปลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี
( จากนั้นนั่งรถสายกาญจนบุรี - เอราวัณ ไปลงที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ แล้วเดินเข้าไปยังน้ำตกอีก 500 เมตร
ค่าโดยสารรถประจำทาง 40 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที )
|
|
|
แผนที่ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติเอราวัณ :-
|
|
|