| : : : อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ ห า ด น พ รั ต น์ ธ า ร า - ห มู่ เ ก า ะ พี พี : : :
|
อุทยานแห่งชาติ
หาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี
มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลอ่าวนาง ตำบลไสไทย และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง
จังหวัดกระบี่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 389.98 ตารางกิโลเมตร หรือ 243,737.5 ไร่
|
ภาพโดย Island Tour
|
 ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
| |
ฤดูกาลท่องเที่ยว
... เดือนมกราคม - เดือนเมษายน เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด
|
| |
| : : : ส ถ า น ที่ น่ า ส น ใ จ : : :
|
 สถานที่น่าสนใจ :-
จุดสนใจอันสำคัญเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมประกอบด้วย หาดทรายชายทะเลสำหรับอาบแดดและเล่นน้ำทะเล
อ่าวสำหรับนั่งเรือชมทิวทัศน์ ปะการัง เหมาะแก่การดำน้ำ หรือนั่งเรือชมความงามตามธรรมชาติ จุดชมวิว
โดยการปีนเขาขึ้นไปยังจุดดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีถ้ำซึ่งมีหินงอกหินย้อย มีภาพเขียนสีโบราณในถ้ำ บริเวณพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้พิจารณาการกระจายตัวตามแหล่งต่างๆ ได้คือ
สุสานหอย
เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้นคือ หลักฐานทางธรณีที่เป็นซากดึกดำบรรพ์หอยน้ำจืดชนิดต่างๆ
ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซ็นติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่บนชั้นหินลิกไนท์และหินดินดานเดิม
ประมาณว่ามีอายุ 75 ล้านปีมาแล้ว จึงเรียกว่า สุสานหอย 75 ล้านปี
อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น
ซึ่งได้กำหนดอายุใหม่เหลือประมาณ 20-40 ล้านปี สุสานหอยลักษณะนี้มีเพียงแห่งเดียวในโลก
ส่วนสุสานหอยที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดจากคนกินทิ้งไว้ มีอายุตั้งแต่ 10,000 กว่าปีขึ้นมา
ส่วนสุสานหอยที่เมืองชิกาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นซากหอยที่มีอายุในช่วง 10,000-50,000 ปีเท่านั้น
หาดนพรัตน์ธารา
เดิมชาวบ้านเรียกว่า หาดคลองแห้ง ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเลบรรจบกับเกาะเขาปากคลอง
เป็นหาดที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยชักตีนแหล่งใหญ่ที่สุดแหล่งหนึ่ง และเป็นหาดที่ได้รับความสนใจในการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณามากที่สุดหาดหนึ่ง
อ่าวนาง
มีทิวทัศน์โดยรวมสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของหาดทราย เป็นภูเขาและมีถ้ำ หินงอกหินย้อย
คือ ถ้ำพระนาง อ่าวนางเป็นอ่าวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติใช้พักผ่อน เพราะมีความเงียบสงบและไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นที่น่าสนใจอีกได้แก่ สระพระนาง หาดไร่เล เป็นต้น
หมู่เกาะปอดะ
อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง เมื่อมองจากฝั่งจะเห็นหาดทรายขาว บริเวณชายฝั่งจะมีแนว ปะการัง หลากชนิด
ประกอบกับความใสสะอาดของน้ำทะเล จึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8
กิโลเมตร จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมไม่มากนัก บริเวณทางทิศใต้ของเกาะเป็นแหล่ง ปะการัง ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง
หมู่เกาะพีพี
จากคำบอกเล่า เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า ปูเลา ปีอาปี คำว่า ปูเลา แปลว่า เกาะ คำว่า ปีอาปี แปลว่า ต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม
ต่อมาเรียกว่า ต้นปีปี ภายหลังกลายเสียงเป็นพีพี หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล
เกาบิด๊ะนอก เกาะบิด๊ะใน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลประมาณ 42 กิโลเมตร
ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเวิ้งอ่าวรูปครึ่งวงกลมอยู่ในวงล้อมของภูเขาหินปูนที่สูงชันจนเกือบเป็นทะเลใน หรือที่ชาวเกาะเรียกว่าปีเละ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะพีพีมีดังนี้
เกาะไม้ไผ่
ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงามและแนว ปะการัง
ที่สวยงามและหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งที่ นักดำน้ำดูปะการัง ต้องไปเมื่อไปเที่ยวเกาะพีพี อยู่ทางทิศใต้ของตัวเกาะ
เกาะยูง
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออกและมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา
นอกจากนี้ยังมีแนว ปะการัง สวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์
เกาะพีพีเล
มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ
เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมี ถ้ำไวกิ้ง
ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำห่งนี้และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า
ถ้ำพญานาค ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้านเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่เก็บ
รังนกนางแอ่น บนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออก และทิศใต้พบ
ภาพเขียนสี สมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพเรือ มีภาพกลุ่มคนล่าสัตว์
และภาพตัวอักษรแทรกอยู่บ้างเล็กน้อย
|
| Top |
| เพิ่มเติมข้อมูลให้เรา
|
| |
ลักษณะการท่องเที่ยว :-
การมาท่องเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี
1. การทัศนาจรแบบมาเช้า - เย็นกลับ
เพื่อมารับประทานอาหารบริเวณหาดนพรัตน์ธารา หรือเพื่อชมความมหัศจรรย์ของสุสานหอย 75 ล้านปี หรือเพื่อชม ปะการัง
ตามเกาะแก่งต่างๆ
2. ในรูปบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ
หรือ Group Tour โดยมีการจัดวางโปรแกรมเอาไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้บริษัทท่องเที่ยวได้ประสานงานในเรื่องที่พัก รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวไว้ เป็นการล่วงหน้า
3. ในรูปการนำเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ตสู่เกาะพีพีโดยตรง
เนื่องจากหมู่เกาะพีพีเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ก่อนที่จะมีการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยเอกชนได้ประชาสัมพันธ์และจัดนำนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมาเพื่อชมและเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ตในวันเดียวกัน
|
| Top |
| เพิ่มเติมข้อมูลให้เรา
|
| |
ภาพถ่าย :-
|
| ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
| |
สภาพภูมิประเทศ :-
พื้นที่อุทยานแห่งชาติชายฝั่งทะเลประกอบด้วยภูเขาหินปูนสูงชัน โดยเฉพาะ เขาหางนาค
มีความสูงที่สุดประมาณ 498 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพชายหาดมีหลายลักษณะทั้งหาดทราย หาดดินเลน
และหาดหิน ได้แก่ หาดทับแขก หาดคลองแห้ง ( หาดนพรัตน์ธารา ) หาดอ่าวนาง หาดไผ่ปล้อง และหาดถ้ำพระนาง เป็นต้น บริเวณหมู่เกาะพีพีส่วนใหญ่เป็นเกาะที่เป็นภูเขาหินและหน้าผาสูงชันมีต้นไม้ขึ้นตามซอกหิน
ไม้ที่ขึ้นเป็นไม้ขนาดเล็ก และแคระแกร็น มีหาดทรายที่สำคัญ ได้แก่ หาดชาวเล หาดโละบาเกา หาดโละดาลัม หาดต้นไทร และหาดโละลานา
จากสภาพธรณีสันฐานซึ่งเป็นชายฝั่งทะเล ประกอบด้วยเขาหินปูนสูงชัน ทำให้ไม่พบแหล่งลุ่มน้ำ
ยกเว้นบริเวณป่าชายเลนเขาหางนาค มีลำคลองเขากลมซึ่งได้รับ น้ำจืด
ที่ระบายมาจากบึงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า หนองทะเล และมีคลองย่านสะบ้า
ซึ่งเป็นคลองน้ำกร่อยขนาดใหญ่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสุสานหอย 75 ล้านปี
|
| |
สภาพภูมิอากาศ :-
สภาพภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติเป็นแบบร้อนชุ่มชื้น ได้รับอิทธิพลของสมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ทำให้ในช่วงเดือนพฤษภาคม
- ตุลาคม มีลมชายฝั่งซึ่งค่อนข้างแรง มีการก่อตัวของเมฆและฝนตกชุกในปริมาณมากเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางจึงไม่เหมาะสมที่จะท่องเที่ยว
ช่วงที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว - - - -
อยู่ในระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน
|
| |
พรรณไม้ :-
สำหรับพรรณไม้ในอุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วย
ป่าดงดิบชื้น
ปรากฏพบบริเวณที่เป็นภูเขาสูงชัน บริเวณเขาหางนาค บริเวณเขาอ่าวนาง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพีพีดอนและบริเวณเกาะพีพีส่วนใหญ่
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 33 ตารางกิโลเมตร หรือ 44 % ของพื้นที่ภาคพื้นดินในเขตอุทยานแห่งชาติ ป่าประเภทนี้มีต้นไม้แคระแกร็น
เนื่องจากพื้นที่เป็นเขาหินปูนซึ่งมีชั้นดินบาง นับว่าเป็นป่าดงดิบชื้นที่ไม่สมบูรณ์ตามธรรมชาติ
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ ตะเคียนหิน ตะเคียนทอง ยาง พยอม
ไม้ชั้นล่าง
ประกอบด้วย จันทน์ผา หวาย ไทร และเถาวัลย์ ฯลฯ
ป่าชายเลน
มีอยู่ในบริเวณคลองแห้งใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาหางนาค และบริเวณคลองย่านสะบ้า ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบริเวณสุสานหอย
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร หรือ 15 % ของพื้นที่ภาคพื้นดินในเขตอุทยานแห่งชาติ
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ โกงกาง แสม ตะบูน ถั่วดำ ถั่วขาว ฯลฯ
ป่าพรุ
เป็นสังคมพืชเด่นที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นสมบูรณ์ ปรากฏอยู่เฉพาะบริเวณหาดนพรัตน์ธาราเป็นบริเวณแคบๆ ประมาณ 0.32 ตารางกิโลเมตร
หรือประมาณ 0.5 % ของพื้นที่ภาคพื้นดินของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีหาดทรายปนดินร่วน ได้รับอิทธิพลของน้ำทะเล หรือเป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลเคยท่วมถึงมาก่อน
พันธุ์พืชที่พบ
นอกจากเสม็ดขาวที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นแล้ว ยังมีพืชอื่นๆ อีก ได้แก่ พะยอม หว้าหิน นม เนียน และหญ้าคา ฯลฯ
|
| |
สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ :-
ตามสภาพภูมิประเทศและสังคมพืชที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติ ทำให้มีถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมแก่สัตว์หลายประเภทด้วยกัน
จำแนกออกเป็นประเภทต่างๆ เท่าที่สำรวจพบ ได้แก่
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ประกอบด้วย หมูป่า กระจง ลิง ค่าง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยในน้ำ
ที่สำคัญ ได้แก่ โลมาปากขวด โลมาปาดขวดมลายู โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมาจุด โลมาขาว
นก
ประกอบด้วย นกทะเลสำคัญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น นกออก เหยี่ยวแดง นกโจรสลัด นกนางนวล หลายชนิด
และนกนางแอ่นกินรัง
สัตว์เลื้อยคลาน
ประกอบด้วยเต่าทะเลที่สำคัญหลายชนิด เช่น เต่ามะเฟือง เต่าตะนุ เต่ากระ เต่าสังกะสี และตะพาบหัวกบ และงูมีพิษในสกุล Elapidae
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
ได้แก่ คางคก กบ อึ่งอ่าง เขียด และปาดหลายชนิดในบริเวณป่าดงดิบชื้นทั่วไป
ปลาน้ำจืด
เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี ไม่มีแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่แต่ประการใด จึงไม่พบปลาน้ำจืดที่สำคัญ
ปลาทะเล
สำหรับในบริเวณน้ำทะเลโดยเฉพาะแหล่งปะการังมีปลาเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ปลาฉลามหลายชนิด ( เช่น ฉลามวาฬ ) ปลากระเบน ปลากระโทงแทง ปลาไหลทะเล
ปลาสกุลตะเพียน ปลาสกุลปลาดุก ปลาสกุลปลากระบอก ปลาบิน ปลาตีน ม้าน้ำ ปักเป้าทะเล ปลาสกุลปลาช่อน สกุลปลาสินสมุทร ปลาหน้าดินหลายสกุล
รวมทั้งปลาที่ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งปะการังหลายชนิด เช่น ปลานางฟ้า ปลาผีเสื้อ และปลาที่มีค่าทางเศรษฐกิจหลายพันธุ์ เช่น ปลาในสกุลปลาทู
สัตว์ประเภทอื่นๆ ที่สำคัญ
นอกจากสัตว์ป่าที่กล่าวมาแล้ว พันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญและมีจำนวนมากในห้วงน้ำทะเล ได้แก่ สัตว์ประเภทหอย กุ้ง และสัตว์ประเภทไม่มีกระดูกสันหลังอีกหลายชนิด
เช่น ปลิงทะเล ปลาดาว หอยเม่น เป็นต้น
สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำประเภทไม่มีกระดูกสันหลังที่สำคัญที่สุด
ได้แก่ ปะการัง และอนุพันธ์ของปะการังจำพวกแมงกะพรุนเท่าที่สำรวจพบได้แก่ ปะการังหนาม ปะการังนิ้วมือ
ปะการังพุ่มไม้ ปะการังดอกไม้ ซึ่งแบ่งแยกออกเป็นประเภทย่อยหลายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังแปลงล้างขวด ปะการังตะโหงกอูฐ ปะการังรูพรุน
ปะการังดอกไม้แปลง ปะการังดอกจอก ปะการังผิวถ้วยเคลือบ ปะการังใบไม้ ปะการังเห็ด ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังกล้วย ปะการังผัดกาด และปะการังต้นไม้
เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปะการังที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มและปะการังพรุนแบบฟองน้ำอีกหลายชนิด
|
| |
สถานที่พักแรม :-
สอบถามตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ด้านล่างนะครับ
|
| |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :-
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 81000
โทรศัพท์ 075-637200 (งานบ้านพัก), 075-661145, 075-637436
หรือที่เว็บไซต์ http://www.dnp.go.th
|
| |
ข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ :-
นักท่องเที่ยว หรือนักดำน้ำ โปรดช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขณะที่อยู่บนบก ในเรือ หรือขณะดำน้ำ เช่น
- ไม่เหยียบ หรือเก็บปะการัง กัลปังหา หรือหอย ไปเป็นของที่ระลึกส่วนตัว
- ไม่ทำอันตรายต่อสัตว์น้ำทุกชนิด
- หากพบขยะใต้ท้องทะเล โปรดเก็บมาทิ้งในถังขยะบนเรือหรือที่ชายฝั่ง
- โปรดอย่าทิ้งขยะในท้องทะเล เก็บไว้ในเรือจนกว่าจะถึงฝั่ง
- ควรทิ้งขยะในที่รองรับเท่านั้น
- ไม่ควรนำเรือเข้าใกล้แนวปะการังน้ำตื้นมากเกินไป เพราะอาจจะเกิดการหักพังของปะการัง
- ไม่ควรซื้อของที่ระลึกที่มีซากปะการัง กัลปังหาเป็นส่วนประกอบ เพราะเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้มีการเก็บปะการัง กัลปังหาเพิ่มขึ้น
- ไม่ควรทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง ควรผูกเรือไว้กับทุ่นจอดเรือในบริเวณที่จัดไว้
|
| |
การเดินทาง :-
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี สามารถเดินทางได้ดังนี้
1. ทางรถยนต์
...... การเดินทางโดยรถยนต์ ไปตามถนนสายในเมือง - ในสระ ระยะทาง 18 กิโลเมตร
จากตัวเมืองกระบี่ถึงหาดนพรัตน์ธารา จากนั้นใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลที่เชื่อมระหว่างหาดนพรัตน์ธารา และหาดบ้านอ่าวนางไปทางทิศใต้ ระยะทาง
6 กิโลเมตร สำหรับไปชมอ่าวนางต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาที
และจากหาดนพรัตน์ธารามีทางแยกไปสุสานหอย 75 ล้านปี ระยะทาง 11 กิโลเมตร
2. ทางเรือ
จากจังหวัดกระบี่
มีเรือโดยสารที่ ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือที่
ท่าเรืออ่าวนาง ระยะทาง 40 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที - 2 ชั่วโมง
จากจังหวัดภูเก็ต
มีเรือโดยสารจากจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 40 กิโลเมตร
|
| |
| |
แผนที่ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี :-
ภาพขยายเกาะพีพีดอน
ภาพขยายเกาะพีพีเล
|
| |
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน 
: : : ข่ า ว ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ : : :
ค้นหาคำว่า :
