| : : : อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ ต ะ รุ เ ต า : : :
|
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ครอบคลุมพื้นที่หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง - ราวี ในท้องที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,490 ตารางกิโลเมตร
|
ตรงนี้รอรูปจากคุณไงครับ
|
 ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
| |
ประวัติความเป็นมา :-
เมื่อปี พ.ศ. 2480 กรมราชทัณฑ์
ได้ไปบุกเบิกบริเวณอ่าวตะโละอุดังและอ่าวตะโละวาว เกาะตะรุเตา ให้เป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด และนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ปลายปี พ.ศ.
2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองจากคดี กบฎบวรเดช ( พ.ศ. 2476 ) และกบฎนายสิบ ( พ.ศ. 2478 ) มายังเกาะตะรุเตาด้วย
 จากสงครามเอเชียบูรพา
( พ.ศ. 2484-2488 ) เกาะตะรุเตาถูกตัดขาดออกจากแผ่นดินใหญ่ เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร ยา เครื่องใช้ต่างๆ ต้นปี พ.ศ. 2487 ผู้คุมนักโทษได้ทำตัวเป็นโจรสลัดปล้นสะดมเรือบรรทุกสินค้าชาวไทยและต่างประเทศที่แล่นผ่านไปมา
ในที่สุดรัฐบาลไทยและทหารอังกฤษได้เข้าปราบโจรสลัดเกาะตะรุเตาสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2489 และอีกสองปีต่อมากรมราชทัณฑ์จึงได้ยกเลิกนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา
อีก 26 ปีถัดมา ในปี พ.ศ. 2525
กรมป่าไม้ โดย นายเต็ม สมิตินันท์ ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ป่าไม้ นายไพโรจน์ สุวรรณากร หัวหน้ากองอุทยานแห่งชาติสมัยนั้นเห็นว่าเกาะตะรุเตาเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งให้ นายบุญเรือง สายศร ไปสำรวจความเหมาะสมของตะรุเตาเพื่อประกาศจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเห็นชอบ
และได้ประกาศให้ หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง - ราวี เป็น อุทยานแห่งชาติ
ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 91 ตอนที่ 68 ลงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2517 รวมเนื้อที่ 1,490 ตารางกิโลเมตร
นับเป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 8 ของประเทศไทย
และในปี พ.ศ. 2525 อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการยกย่องให้เป็น ASEAN Heritage Parks Reserves
|
| Top |
ข้อมูลเพิ่มเติม :-
เกาะแก่งบริเวณอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
มีเกาะใหญ่เล็กทั้งสิ้น 51 เกาะ กระจายกันอยู่บริเวณช่องแคบมะละกา ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นเกาะใต้สุดของประเทศไทย
พรมแดนต่อเนื่องกับเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งห่างจากปลายเกาะตะรุเตาเพียง 4.8 กิโลเมตร เท่านั้น เกาะใหญ่ที่สำคัญๆ
ของหมู่เกาะตะรุเตา ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบางตวง และเกาะบิสสี
ซึ่งจัดแบ่งออกเป็นหมู่เกาะใหญ่ๆ ได้เป็น 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง - ราวี
เกาะตะรุเตา
เป็นเกาะที่มีรูปลักษณะยาวเรียวในแนวเหนือ - ใต้ มีจุดสูงสุดจากระดับน้ำทะเล 725 เมตร ชายฝั่งทางด้านทิศตะวันตก
ส่วนมากจะเป็นหน้าผาสูงชันหลากสีสลับไปกับหาดทรายขาวและมี อ่าวพันเตมะละกา ซึ่งมีหาดทรายสวยงาม
เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ บริเวณรอบๆ เกาะตะรุเตามีเกาะเล็กๆ อยู่มากมาย
เกาะอาดัง - ราวี
เป็นภูเขาสูงๆ ต่ำๆ มีหาดทรายขาวสะอาดยาวสวยงาม และใต้น้ำมี ปะการัง พืชพันธุ์ไม้น้ำนานาชนิด
ชายฝั่งมีโขดหินและหน้าผาสลับซับซ้อน บริเวณรอบๆ มีเกาะอื่นที่สวยงามเช่นกัน
|
| Top |
ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเล :-
ชาวเล
เป็นชื่อที่คนทั่วไปเรียกชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง มีชีวิตเร่ร่อน ย้ายถิ่นฐานไปตามเกาะแก่งต่างๆ ในแหลมมลายู ระหว่างประเทศพม่าจนถึงประเทศอินโดนีเซีย เชื่อกันว่า
โต๊ะฆีรี หรือ ฮีหลี ชาวเลในกลุ่มอุรักลาโว้ย เป็นชาวเลคนแรกที่เดินทางมาจากน่านน้ำอินโดนีเซีย มาตั้งถิ่นฐานที่เกาะหลีเป๊ะ และชักชวนให้ชาวเลอื่นๆ มาอยู่ร่วมกัน
สืบลูกหลานมาจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะยุติการเร่ร่อน เปลี่ยนมาสร้างบ้านเรือนอยู่เป็นหลักแหล่งถาวร ถึงแม้ชีวิตจะเปลี่ยนไปแต่ชาวเลก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนไว้
และยึดอาชีพจับสัตว์น้ำ
ชาวเลดั้งเดิม
เป็นกลุ่มชนไม่มีศาสนา นับถือผีและวิญญาณ ทุกปีจะมีการบูชาและสักการะวิญญาณบรรพบุรุษที่เรียกว่า พิธีไหว้ทวด
ผี ในความเชื่อของชาวเลคือ ฮาตู หรือ ปีศาจ ไม่ใช่เพียงแต่วิญญาณของผู้ตายไปแล้วเท่านั้น ยังรวมถึงผีและวิญญาณของธรรมชาติรอบตัวด้วย เช่น ผีเจ้าเกาะ ผีน้ำ ผีไม้
ชาวเลเชื่อว่าคาถาอาคมสามารถป้องกันการรบกวนของผีได้ นอกจากนี้ชาวเลยังมีความเชื่อว่า เคราะห์
คือความชั่วร้ายและความอัปมงคล ในปีหนึ่งๆ จึงมีพิธีกรรมการลอยเคราะห์ให้พ้นจากตัวเองและครอบครัวไปซึ่งเรียกว่า พิธีลอยเรือ
ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้ง ในวันขึ้น 15 ค่ำ ของเดือน 6 และเดือน 11 ต่อเนื่องจาก พิธีไหว้ทวด
|
| Top |
| : : : ส ถ า น ที่ น่ า ส น ใ จ : : :
|
สถานที่น่าสนใจ :-
ในบริเวณหมู่เกาะอาดัง - ราวี
อุดมสมบูรณ์ไปด้วย แนวปะการัง และทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล เหมาะกับ การดำน้ำดูปะการัง
โดยเฉพาะในบริเวณเกาะกลาง เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะจาบัง เกาะหินงาม และเกาะยาง
เกาะตะรุเตา
อ่าวพันเตมะละกา เป็น ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
มีหาดทรายขาวสะอาดและสวยงาม เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และ กางเต๊นท์พักแรม
มีทางเดินศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวบนผาโต๊ะบู ใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที ชมความงามของคลองพันเตมะละกา
เส้นทางเดินชมธรรมชาติจากอ่าวพันเต นำไปสู่หาดทรายที่สะอาดและสงบของอ่าวจาก อ่าวเมาะและอ่าวสน
เส้นทางอ่าวพันเต - อ่าวตะโละวาว
เส้นทางอ่าวตะโละวาว - อ่าวตะโละอุดัง
นอกจากนี้ ยังสามารถ ล่องเรือ ไปตามคลองพันเตมะละกา
เพื่อชมความสวยงามและความสมบูรณ์ของป่าชายเลนและสัตว์ป่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ 2 ฝั่งคลองอย่างใกล้ชิด และเที่ยวชม ถ้ำจระเข้
ที่งดงามไปด้วย หินงอกหินย้อย ซึ่งแฝงไปด้วยความเร้นลับ นอกจากนี้ในบริเวณอ่าวตะโละวาว และอ่าวตะโละอุดัง
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะตะรุเตา ยังสามารถเที่ยวชมร่องรอยของอดีตทัณฑสถานและนิคมฝึกอาชีพตะรุเตาได้
เกาะกลางและเกาะไข่
ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกราว 25 กิโลเมตร จะพบเกาะกลางและเกาะไข่เคียงคู่กัน ชื่อเกาะกลางนั้นสืบเนื่องจากตำแหน่ง
ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง ส่วนที่ชื่อเกาะไข่นั้นเพราะหาดทรายอันขาวสะอาดของเกาะนี้เป็นที่ วางไข่ของเต่าทะเล
นั่นเอง นอกจากหาดทรายที่งดงามแล้ว ยังมีซุ้มประตูหิน ประติมากรรมธรรมชาติที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
เกาะอาดัง
ชายหาดบริเวณแหลมสนของเกาะอาดัง เหมาะแก่การพักแรม
ชมความงามทางทัศนียภาพ มีทางเดินเท้าที่นำไปสู่จุดชมวิว น้ำตกต่างๆ
เกาะหลีเป๊ะ
ทางใต้ของเกาะอาดังไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเกาะซึ่งมีชาวเลอาศัยตั้งถิ่นฐานอยู่ ตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 5
เกาะหินงาม
เลยจากเกาะอาดังไปทางทิศตะวันตกไม่ไกลนัก จะโดดเด่นสะดุดตาผู้ผ่านไปมาด้วยหาด หินก้อนกลมรีขนาดเล็กใหญ่ต่างๆ
ที่ดูลื่นเป็นเงาวาววับเกลี้ยงเกลา เมื่อคลื่นซัดสาดมีสีพื้นเข้ม สลับริ้วลายเส้นสีอ่อนของหินงดงามจับตา
|
| |
| เพิ่มเติมข้อมูลให้เรา
|
| Top |
ภาพถ่าย :-
|
| ส่งภาพถ่ายให้เรา
|
| |
พรรณไม้ :-
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีความหลายหลากของสังคมพืชเป็นอย่างมาก มีพรรณพืชนานาชนิด ขึ้นอยู่ตามนิเวศที่เหมาะสม
ป่าดงดิบ
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ ไม้ตะเคียน หลุมพอ และเถาวัลย์ต่างๆ ขึ้นอยู่ร่วมกับพันธุ์ไม้อื่นที่ชอบความชุ่มชื้นมาก
ป่าชายหาด
จะขึ้นอยู่บริเวณชายหาด
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ ต้นหูกวาง โพทะเล จิกทะเล เตย และผักบุ้งทะเล
ป่าชายเลน
บริเวณริมคลองและอ่าวที่มีดินเลน หมู่ไม้ที่สามารถดำรงชีพอยู่ในบริเวณที่มีน้ำทะเลขึ้นหรือท่วมถึง
พันธุ์ไม้ที่พบ
ได้แก่ โกงกาง โปรง แสม ตะบูน และจาก เป็นต้น
|
| |
สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ :-
เกาะตะรุเตาและหมู่เกาะอาดัง - ราวี เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสรรพชีวิตต่างๆ
สัตว์ป่า
ได้แก่ ลิงแสม ค่างแว่นถิ่นใต้ กระจง หมูป่า งูเหลือม เหี้ย ตะกวด เต่าหับ กบ เขียด นกแก๊ก นกกาฮัง เหยี่ยวแดง นกออก
นกนางนวล นกนางแอ่น นกยางทะเล นกหัวโตขาดำ และนกทะเลขาแดงธรรมดา
สัตว์น้ำ
ในท้องทะเลอันดามันอันกว้างใหญ่ไพศาล ยังเป็นแหล่งที่อาศัยของ ปลาทู ปลาอินทรี ปลาทูน่า สำหรับโลมา และวาฬ
ก็จะอาศัยสัตว์และพืชในทะเลนี้เป็นอาหารเลี้ยงชีพ ขณะที่ เต่าทะเล จะมีการสืบพันธุ์โดยขึ้นมาว่างไข่นับร้อยฟอง ณ
หาดทรายที่เงียบสงบและสะอาดของเกาะต่างๆ เช่น เกาะไข่ ในขณะที่ ปู กุ้ง หอย และหมึก ชนิดต่างๆ
จะใช้ชีวิตหากินและผจญภัยในท้องทะเลเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น
นอกจากกองหินธรรมชาติแล้ว
แนวปะการัง ก็เป็นแหล่งหลบภัยของสัตว์ทะเลได้เป็นอย่างดี สัตว์น้อยใหญ่มักไปรวมอาศัยอยู่กัน
โดยเฉพาะสัตว์ที่มีความสวยงามและไม่มีอาวุธป้องกันตัว เช่น ปลาปากแตร ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว หอยมือเสือ ปลาผีเสื้อ เป็นต้น
|
| |
สถานที่พักแรม :-
สอบถามตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ด้านล่างนะครับ
|
| |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :-
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล 91110
โทรศัพท์ : 074-783485
หรือที่เว็บไซต์ http://www.dnp.go.th
|
| |
ข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ :-
นักท่องเที่ยว หรือนักดำน้ำ โปรดช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขณะที่อยู่บนบก ในเรือ หรือขณะดำน้ำ เช่น
- ไม่เหยียบ หรือเก็บปะการัง กัลปังหา หรือหอย ไปเป็นของที่ระลึกส่วนตัว
- ไม่ทำอันตรายต่อสัตว์น้ำทุกชนิด
- หากพบขยะใต้ท้องทะเล โปรดเก็บมาทิ้งในถังขยะบนเรือหรือที่ชายฝั่ง
- โปรดอย่าทิ้งขยะในท้องทะเล เก็บไว้ในเรือจนกว่าจะถึงฝั่ง
- ควรทิ้งขยะในที่รองรับเท่านั้น
- ไม่ควรนำเรือเข้าใกล้แนวปะการังน้ำตื้นมากเกินไป เพราะอาจจะเกิดการหักพังของปะการัง
- ไม่ควรซื้อของที่ระลึกที่มีซากปะการัง กัลปังหาเป็นส่วนประกอบ เพราะเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้มีการเก็บปะการัง กัลปังหาเพิ่มขึ้น
- ไม่ควรทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง ควรผูกเรือไว้กับทุ่นจอดเรือในบริเวณที่จัดไว้
|
| |
การเดินทาง :-
โดยที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาตั้งอยู่กลางทะเลลึก อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ทำให้ท้องทะเลในช่วงฤดูมรสุมมีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ดังนั้น ช่วงเลาที่เหมาะสม
ในการเดินทางไปเยือนอุทยานแห่งชาติตะรุเตา คือ ช่วงระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน
การเดินทางมีรถโดยสารประจำทางจากหาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยัง ท่าเรือปากบารา
ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ออกเดินทางวันละ 3 เที่ยว เวลา 07.00, 11.00 และ 15.00 น. รถจอดให้บริการที่ หอนาฬิกา
หรือเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศจากหาดใหญ่ - ปากบารา มีรถออกทุกหนึ่งชั่วโมง โดยให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-16.00 น.
รถจอดที่ หน้าธนาคารกรุงไทย ถนนพิพัฒน์อุทิศ ( สาย 1 )
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่ จากหาดใหญ่ - ละงู
รถจอดหน้าที่ทำการไปรษณีย์หาดใหญ่ ถนนรัถการ และหน้าโรงแรมเปรสซิเด้นท์ แล้วนั่งรถสองแถวจากละงูไปยังปากบารา ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
กรณีเดินทางจากสตูล
สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่ซึ่งจอดเยื้องธนาคารกรุงเทพฯ ไปยังละงู จากนั้นนั่งรถสองแถวต่อไปยัง ท่าเรือปากบารา
เพิ่มเติมการเดินทาง :-
สำหรับการเดินทางโดยเรือไปยังเกาะตะรุเตา และเกาะอาดัง มีรายละเอียดการให้บริการดังนี้
1. จากท่าเรือปากบารา - ที่ทำการอุทยานฯ ( อ่าวพันเตมะละกา เกาะตะรุเตา ) โดยเรือยนต์โดยสารประจำทาง
ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ( ไป - กลับ )
2. จากที่ทำการอุทยานฯ ( อ่าวพันเตมะละกา เกาะตะรุเตา ) - เกาะอาดัง โดยเรือยนต์โดยสารประจำทาง
เที่ยวไปออกทุกวันอังคาร พฤหัส และเสาร์ ส่วนเที่ยวกลับออกทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์
|
| |
| |
แผนที่ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา :-
|
| |
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน 
: : : ข่ า ว ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ : : :
ค้นหาคำว่า :
